Revalue Fixed-Asset

Revalue Fixed-Asset

Revalue Fixed-Asset


Revalue : คือ
การปรับค่าทรัพย์สินถาวรหลังจากการประเมินมูลค่าใหม่ของทรัพย์สินนั้นๆ เพื่อให้ค่าบัญชีสอดคล้องกับมูลค่าที่แท้จริงของทรัพย์สินในปัจจุบัน การทำ Revaluation นั้นมักจะทำในกรณีที่มูลค่าของทรัพย์สินมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ เช่น การเพิ่มมูลค่าหรือการลดมูลค่าของทรัพย์สิน เพื่อให้บัญชีแสดงค่าทรัพย์สินที่แท้จริงมากที่สุดที่เป็นไปได้ในขณะนั้นๆ การ Revaluation นี้มักจะต้องผ่านการประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญทางการเงินหรือวิศวกรระดับสูง เพื่อให้มีความเชื่อถือได้ในผลลัพธ์ที่ได้ การปรับค่าทรัพย์สินนี้สามารถมีผลกระทบต่องบการเงินและรายงานทางการเงินขององค์กรได้ เนื่องจากมันสามารถเปลี่ยนแปลงค่าเงินสำคัญในงบการเงินขององค์กรได้ตามมูลค่าที่ถูกปรับเปลี่ยนนั้น การ Revalue Fixed-Asset มักเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่สำคัญในการบัญชีและการเงินขององค์กรในบางกรณีที่มูลค่าของทรัพย์สินมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญโดยส่วนใหญ่ในห้างหุ้นส่วนบริษัทหรือบริษัทที่มีทรัพย์สินมากหรือมีความสำคัญในการดำเนินกิจการขององค์กร

โดยทั่วไปการ Revalue จะเกิดขึ้นใน 2 กรณีใหญ่ๆ ได้แก่

  1.     ค่าซ่อมแซม และ
  2.     Credit / Debit Note ( เพิ่มหนี้ , ลดหนี้ )

ซึ่งทั้ง 2 กรณีนี้ ในทางระบบบัญชีจะต้องทำการ Revalue เป็น 2 แบบ คือ

  1. เปลี่ยนเฉพาะต้นทุน แต่วันหมดค่าเสื่อมราคายังเหมือนเดิม คือ การเปลี่ยนแปลงเฉพาะต้นทุนโดยไม่เปลี่ยนแปลงวันหมดอายุค่าเสื่อมราคาสามารถเกิดขึ้นในกรณีที่มีการปรับปรุงหรือการเปลี่ยนแปลงในการผลิตที่ส่งผลต่อต้นทุนเท่านั้น หากวันหมดอายุค่าเสื่อมราคายังเหมือนเดิม แปลว่าค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สินยังคงเดิมไว้ไม่เปลี่ยนแปลง ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงเฉพาะต้นทุนนั้นจะไม่มีผลต่อวันหมดอายุค่าเสื่อมราคา และค่าเสื่อมราคายังคงเดิมตามที่กำหนดไว้ตามนั้น
  2. เปลี่ยนทั้งต้นทุน และขยายอายุค่าเสื่อมราคาออกไปด้วย การเปลี่ยนแปลงทั้งต้นทุนและการขยายอายุค่าเสื่อมราคาเป็นกระบวนการที่สำคัญในการบริหารจัดการทรัพย์สินและการเงินขององค์กรหรือธุรกิจ ดังนั้นฉันจะอธิบายเกี่ยวกับแต่ละกระบวนการดังนี้

    1. การเปลี่ยนแปลงทั้งต้นทุน (Capital Expenditure): 
    - การเปลี่ยนแปลงทั้งต้นทุนหมายถึงการลงทุนในทรัพย์สินคงทนทาน เช่น เครื่องจักร เครื่องมือ อาคาร เป็นต้น เพื่อใช้ในการผลิตหรือให้บริการ 
    - การเปลี่ยนแปลงทั้งต้นทุนสามารถทำได้ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การซื้อเครื่องจักรใหม่ เปลี่ยนแปลงหรืออัพเกรดเครื่องจักรที่มีอยู่ เป็นต้น 
    - การตัดสินใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงทั้งต้นทุนควรพิจารณาค่าใช้จ่ายทั้งหมดและผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อธุรกิจ รวมถึงความสามารถในการให้บริการหรือผลิตสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ 
    2. การขยายอายุค่าเสื่อมราคา (Depreciation): 
    - การขยายอายุค่าเสื่อมราคาหมายถึงการเพิ่มระยะเวลาในการคำนวณค่าเสื่อมราคาของทรัพย์สินคงทนทาน เช่น เครื่องจักร อาคาร เป็นต้น
    - การขยายอายุค่าเสื่อมราคาอาจทำให้ค่าเสื่อมราคาที่คำนวณได้ลดลง ซึ่งจะส่งผลต่อกำไรสุทธิของธุรกิจในเวลาสั้น ๆ
    - การตัดสินใจเกี่ยวกับการขยายอายุค่าเสื่อมราคาควรพิจารณาถึงผลกระทบต่องบการเงินและประสิทธิภาพในการบริหารทรัพย์สิน

 3088
ผู้เข้าชม
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์