ต้องรู้อะไร ก่อนที่จะบอกว่าคุณเป็น “นักบัญชียุคดิจิทัล”

ต้องรู้อะไร ก่อนที่จะบอกว่าคุณเป็น “นักบัญชียุคดิจิทัล”

1. Fintech จะทำให้กระบวนการทางบัญชี ไม่เหมือนเดิม
นักบัญชีต้องเรียนรู้เพิ่มเติมมากมาย ไม่ว่าจะเป็น ช่องทางการจ่ายเงินของลูกค้าไปรูปแบบใหม่ การยื่นภาษีทางอิเลคทรอนิคส์ ผ่าน e-Receipt และ e-Tax Invoice การยื่นงบผ่านระบบ e-filing ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า การชำระเงินผ่านระบบ e-payment การชำระเงินในช่องทางใหม่ที่ไม่ผ่านระบบของธนาคาร เป็นต้น

2. Fintech ที่จะเข้ามามีบทบาทในอนาคตอันใกล้
เช่น การระดมทุนผ่าน crownfuding หรือ การใช้เทคโนโลยี Blockchain ในงานด้านการเงิน นักบัญชีจะต้องรู้ผลกระทบที่มีต่อวิธีและกระบวนการรวบรวมข้อมูลเพื่อบันทึกบัญชี และการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อธุรกิจ และในอนาคต Bitcoinที่กำลังนิยมใช้ทั่วโลกและก่อให้เกิดปัญหามากมาย ก็อาจจะตามมาสร้างสีสันให้กับนักบัญชี ให้เกิดอาการมึนงง เข้าไปอีก

3. Technology ทำให้กระบวนการทางธุรกิจเปลี่ยนแปลงไป 
ซึ่งมีผลต่อการรวบรวมข้อมูลรายได้ รายจ่าย เพื่อนำมาบันทึกบัญชี ข้อมูลจะวิ่งมาเป็นแบบอิเลอทรอนิคส์ เช่น ในสายการบิน รายได้จากการขายตั๋วเครื่องบิน จะวิ่งผ่านระบบ reservation system และมี Software ที่เรียกว่า revenue management system เป็นตัวรวบรวมข้อมูลรายได้การขายตั๋ว เพื่อบันทึกบัญชีรายได้ ภาษีมูลค่าเพิ่ม และการรับเงินผ่านบัตรเครดิต โดยอัตโนมัติ ซึ่งระบบนี้จะคล้ายกับระบบ E-commerce ที่ธุรกิจเปิดเวปไซต์เพื่อขายของ ส่วนการกระทบยอดเงินรับจากบัตรเครดิต จะมีการชนยอดจาก Text file ที่ได้รับจากธนาคารทุกวัน โดยรายการจะเป็นลักษณะ T+1 หรือ T+2 แล้วแต่เงื่อนไข การกระทบยอดเงินฝากธนาคาร ก็จะเป็นการชนยอดในระบบบัญชีอิเลคทรอนิคส์

4. ระบบ ERP ที่ใช้ จะถูกกระทบโดยเทคโนโลยีสมัยใหม่ของธุรกิจ
เช่น การผสมผสานระหว่าง Drone technology กับ งานบริหาร Fixed assets หรือ Inventory เป็นต้น

5. การใช้ Softwareในการบันทึกบัญชีแบบเดิม กำลังจะเปลี่ยนแปลงไป
นักบัญชีจะไม่ทำงาน Bookkeeping อีกแล้ว แต่จะผันตัวไปเป็น นักวิเคราะห์ข้อมูลการเงินและข้อมูลธุรกิจ เพื่อทำหน้าที่เป็น “คู่คิดนักธุรกิจ”

6. นักบัญชีต้องเป็นนักวางระบบบัญชีอิเลคทรอนิคส์
ที่รู้ว่าต้อง Set ค่าในระบบยังไง เพื่อให้ระบบทำงานถูกต้อง เป็นไปตามมาตรฐานบัญชีและภาษี

7. ปี 2017 จะเป็นปีแห่ง การสร้าง App ของธุรกิจที่เน้นการทำ Startup
นักบัญชีต้องรู้ Tax point เพื่อบอกเจ้าของธุรกิจได้ว่าเกิด ณ จุดไหน เพื่อที่จะช่วยให้ธุรกิจไม่เสียเบี้ยปรับ หรือเงินเพิ่มในภายหลัง

8. ในยุคแห่งเทคโนโลยีและนวัตกรรม ค่าใช้จ่ายด้าน R&D ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนา App /Blockchain /AR /Robots /AI จะเป็นสัดส่วนที่มากมายมหาศาลในแต่ละบริษัท
นักบัญชีต้องช่วยเสนอแนะแนวทางในการบริหารจัดการ นอกเหนือจากแนวทางที่บันทึกบัญชีตามมาตรฐานบัญชี ซึ่งในบางเรื่องก็ต้องใช้ Judgement พอสมควร

9. เทคนิคและวิธีการที่ใช้งานสอบบัญชี
ก็จะเปลี่ยนแปลงไปเช่นกัน แต่แนวคิดในงานสอบบัญชียังคงเดิม ตามมาตรฐานสอบบัญชี <จะทยอยเล่าให้ฟังในโอกาสต่อไป

10. Big data technology จะทำให้นักบัญชีสามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้ในหลากหลายมิติมากขึ้น
แต่ทั้งนี้นักบัญชีจะต้องรู้จักว่าเทคโนโลยีนี้ คืออะไร และจะนำมาประยุกต์ได้อย่างไร

11. ในอนาคตอันใกล้จะเป็นสังคมของการใช้เทคโนโลยีอย่างแพร่หลาย
เช่น APP /Augmented reality/ Robotics ฯลฯ ดังนั้น นักบัญชีคงจะต้องฝึกให้สามารถเขียนโปรแกรม หรือที่เรียกว่า coding ได้ โดยอาจจะเป็นการเขียนแบบง่ายๆ ในปัจจุบันมีภาษาใหม่ที่เราเรียกว่า Ruby ซึ่งเป็นภาษาที่เขียนง่ายและน่าสนใจ

12. Software บัญชีที่เป็นลักษณะAI /Cloud computing/ Prompt pay/ Sandbox… และ อื่นๆอีกมากมาย ที่นักวิชาชีพบัญชีทั้ง 6 ด้าน ต้องเรียนรู้
อันเป็นผลจากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ที่เป็นไปอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องในทุกๆวัน

บทความโดย: http://ciba.dpu.ac.th

 1884
ผู้เข้าชม
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์