นักเทรด Crypto ควรรู้!! หากได้กำไร ต้องเสียภาษีอย่างไร?

นักเทรด Crypto ควรรู้!! หากได้กำไร ต้องเสียภาษีอย่างไร?

ปัจจุบันต้องเสียภาษีจากคริปโทฯ อย่างไร?

       ก่อนอื่นต้องชี้แจงก่อนว่าข้อกฏหมายที่เกี่ยวข้องกับการเสียภาษีคริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัล ตามพระราชกำหนดแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร ฉบับที่ 19 พ.ศ. 2561 ระบุไว้ว่า นักลงทุนต้องเสียภาษีเงินได้ 15% จากกำไรที่ได้จากคริปโทเคอร์เรนซีหรือโทเคนดิจิทัลเมื่อคำนวณออกมาเป็นเงินบาท

       อย่างไรก็ตาม ปัจจุบัน (4 พฤศจิกายน 2021) ทาง Exchange จะเก็บ VAT 7% จากการซื้อขายเท่านั้น ซึ่งถูกรวมไว้ในค่าธรรมเนียมซื้อขายแล้

       สำหรับการเสียภาษีเงินได้ 15% นักลงทุนต้องคำนวณภาพรวมการซื้อขายว่าได้กำไรหรือขาดทุน หากได้กำไรก็ต้องยื่นและเสียภาษีอย่างถูกต้องด้วยตัวเอง เพื่อป้องกันการถูกเรียกตรวจสอบย้อนหลัง

กำไรที่ได้จากต่างประเทศ

สำหรับนักลงทุนที่ได้กำไรจากการซื้อขายในกระดานต่างประเทศ จะต้องเสียภาษีเงินได้ก็ต่อเมื่อ

       1.นักลงทุนอาศัยอยู่ในประเทศไทยเกิน 180 วัน ในปีภาษี (มกราคม - ธันวาคม)

       2.นักลงทุนนำกำไรเข้าไทยในปีเดียวกัน

ปัญหาของการคำนวณกำไรจากคริปโทฯ

ข้อกฏหมายระบุเพียงแค่การเสียภาษีเงินได้ 15% แต่การคำนวณ “กำไร” จากคริปโทเคอร์เรนซีในความเป็นจริงมีความซับซ้อนอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น

       1.การส่งคำสั่งซื้อขายหลายไม้

       2.การจ่ายค่า Gas ที่เป็นต้นทุนสำหรับการลงทุนใน DeFi หรือการซื้อขาย NFT

       3.การลงทุนแบบ ICO หรือ IEO แล้วได้กำไร

       4.การโอนเหรียญจาก Exchange ต่างประเทศเข้ามาขายในไทย

       และปัญหาอื่น ๆ ที่ยังไม่มีระบบภาษีที่ชัดเจน ทำให้การคำนวณต้นทุนกับกำไรทำได้ยาก Exchange ในไทยจึงยังไม่มีหน้าที่หักภาษีเงินได้ 15% ของนักลงทุน นักลงทุนต้องเป็นผู้ยื่นและเสียภาษีต่อกรมสรรพากรด้วยตัวเอง

นักเทรดจะดูสรุปข้อมูลการซื้อขายบน Bitkub ได้อย่างไร ?

       สำหรับการดึงข้อมูลการซื้อขายเพื่อนำมาประกอบการคำนวณต้นทุน-กำไรจากการซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลบน Bitkub สามารถทำได้ ดังนี้

บนคอมพิวเตอร์ Desktop

       1. เข้าสู่ระบบบัญชีบิทคับ

       2. ไปที่ "ประวัติ"

       3. สามารถตรวจสอบประวัติธุรกรรมได้จากหน้านี้ (ฝาก, ถอน, คำสั่งซื้อ/ขาย, ค่าธรรมเนียม)

       4. หากต้องการดาวน์โหลดประวัติธุรกรรม ท่านสามารถกดที่ปุ่มดาวน์โหลด และเลือกระยะเวลาที่ต้องการได้ โดยจะมีให้เลือกดาวน์โหลด 2 ประเภท คือ 1. รายการเดินบัญชี 2. ใบกำกับภาษี

หมายเหตุ

       1.รายการเดินบัญชีสามารถดาวน์โหลดได้ในช่วงเวลาระยะเวลาไม่เกิน 180 วัน

       2.ใบกำกับภาษีสามารถดาวน์โหลดได้ในช่วงเวลาระยะเวลาไม่เกิน 30 วัน

การทำรายการบน Mobile Application

นักลงทุนสามารถตรวจสอบประวัติการทำธุรกรรมบนบัญชีของท่านผ่านแอปพลิเคชัน ตัวอย่างเช่น แอป Bitkub 

       1. เปิดแอป Bitkub บนมือถือ และลงชื่อเข้าใช้งานบัญชีของตนเอง

       2. กดที่รูปกระเป๋าสตางค์ "Wallet" ตรงแถบเมนูด้านล่าง

       3. กดรูปนาฬิกาที่มุมบนขวา

       4. กดที่ "HISTORY" เพื่อดูประวัติการทำธุรกรรม

       5. กดที่ "CRYPTO" เพื่อดูสถานะการทำธุรกรรม

แหล่งที่มา : ขอขอบคุณบทความจาก https://mgronline.com/

 684
ผู้เข้าชม
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์