เริ่มเก็บภาษีจยย.อัตราใหม่ ตามค่าปล่อยก๊าซคาร์บอน

เริ่มเก็บภาษีจยย.อัตราใหม่ ตามค่าปล่อยก๊าซคาร์บอน

   



   นายณัฐกร อุเทนสุต ผู้อำนวยการสำนักแผนภาษี ในฐานะรองโฆษกกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมฯได้เริ่มจัดเก็บภาษีสรรพสามิตรถจักรยานยนต์ตามโครงสร้างภาษีใหม่แล้ว ตั้งแต่ 1ม.ค.63ที่ผ่านมา ซึ่งในโครงสร้างภาษีใหม่ได้จัดเก็บตามปริมาณการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ของรถจักรยานยนต์ แทนการจัดเก็บภาษีตามขนาดเครื่องยนต์แบบที่ผ่านมา เพื่อต้องการสนับสนุนลดปัญหามลพิษทางอากาศ และสนับสนุนให้ผู้ผลิตค่ายรถจักรยานยนต์พัฒนาเทคโนโลยีการใช้พลังงานสะอาดเพิ่ม

   ทั้งนี้กรมฯ คาดว่าโครงสร้างภาษีใหม่ ทำให้อุตสาหกรรมรถจักรยานยนต์ ปรับตัวทยอยปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีการผลิตใหม่ ลดขนาดความจุกระบอกสูบของมอเตอร์ไซค์ลง เพื่อไม่ให้ถูกเก็บภาษีเพิ่ม และเชื่อว่าจะไม่กระทบต่อชาวบ้านประชาชนผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์ เพราะ รถจักรยายนต์ส่วนใหญ่ที่คนไทยใช้กว่า 90% เป็นรถขนาดเล็กไม่เกิน 150 ซีซี ซึ่งปล่อยก๊าซคอร์บอนฯ ไม่เกิน 50 กรัมต่อกิโลเมตรอยู่แล้ว ทำให้เสียภาษีเพิ่มคันละ 100-200บาท เพราะจากเดิมเสียภาษี 2.5% ของราคาหน้าโรงงาน มาเสียภาษี 3% ของราคาขายปลีกหรือราคานำเข้าแทน

   อย่างไรก็ตาม ในส่วนจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ ที่มีเครื่องยนต์เกิน 1,000 ซีซี เช่น รถบิ๊กไบค์ หากไม่มีการปรับปรุงกระบวนการผลิตใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อลดการปล่อยอากาศเสีย บางคันที่เป็นรถหรูอาจได้รับผลกระทบมีภาระภาษีเพิ่มขึ้นหลักหมื่นบาาทได้ เนื่องจากรถใหญ่กินน้ำมันเยอะและปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์สูง แต่ในขณะเดียวกันหากผู้ผลิตรายใด สามารถพัฒนาใช้เทคโนโลยีปล่อยควันพิษน้อย ก็มีโอกาสเสียภาษีถูกลงได้เช่นกัน

นายณัฐกรกล่าวว่า ยืนยันว่าโครงสร้างภาษีสรรพสามิตรถจักรยานยนต์ใหม่ จัดเก็บเฉพาะรถจักรยานยนต์ที่ผลิตใหม่ หรือที่นำเข้าใหม่จากต่างประเทศเท่านั้น ไม่ได้คิดภาษีกับรถจักรยานยนต์เก่าแต่อย่างใด โดยวิธีการคิดภาษี จะคิดจากราคาขายปลีกจริงเท่านั้น

   สำหรับโครงสร้างภาษีรถมอเตอร์ไซค์ใหม่ หากเป็นรถจักรยานยนต์ใช้พลังงานไฟฟ้า (อีวี) เก็บที่ 1% รถที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ไม่เกิน 50 กรัมต่อกิโลเมตร เสียที่อัตรา 3% รถที่ปล่อยก๊าซ คาร์บอนไดออกไซด์ ตั้งแต่ 51-90 กรัมต่อกิโลเมตร เสียที่อัตรา 5% รถที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ตั้งแต่ 91-130 กรัมต่อกิโลเมตร เสียที่อัตรา 9% รถที่ปล่อยก๊าซ คาร์บอนไดออกไซด์ เกิน 130 กรัมต่อกิโลเมตรขึ้นไป เสียที่อัตรา 18% ส่วนรถจักรยานยนต์ต้นแบบเพื่อการวิจัยพัฒนาเก็บที่ 0% รวมถึงรถมอเตอร์ไซค์อื่น ๆ เสียภาษีที่ 20% ส่วนโครงสร้างภาษีรถจักรยานยนต์เดิม จะเก็บภาษีตามขนาดเครื่องยนต์ หากไม่เกิน 150 ซีซีเสียภาษีที่ 2.5% ขณะที่ 150-500 ซีซี เสีย4% ส่วน 500-1,000 ซีซี เสีย 8% และ 1,000 ซีซีขึ้นไป เสีย 17% แต่โครงสร้างภาษีรถจักรยานยนต์ใหม่ ได้เก็บตามปริมาณการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ เพื่อลดการปล่อยก๊าซพิษ

บทความจาก : www.thansettakij.com

 728
ผู้เข้าชม
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์