ผลกระทบสงครามน้ำมัน กับตลาดหุ้นไทย

ผลกระทบสงครามน้ำมัน กับตลาดหุ้นไทย

     ผลกระทบจากสงครามราคาน้ำมัน ทำให้ฉุดหุ้นพลังงานนำตลาดหุ้นไทยร่วงลงกว่า 30 จุด นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ ผู้อำนวยการนักกลยุทธ์การลงทุนฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) เปิดเผยว่าแนวโน้มทิศทางตลาดหุ้นไทย อาจจะแกว่งลงมาตามลำดับ

     จุดหลักสงครามราคาน้ำมันดิบที่มีความรุนแรงขึ้น ทั้งฝั่งดีมานด์ที่หดตัวลงจากการระบาดของไวรัส COVID-19 ที่ยังไม่เห็นตัวเลขจะหยุด ทำให้กดดันภาพเศรษฐกิจและดีมานด์ ขณะที่ซัพพลายเดือนหน้า (เม.ย.) กำลังการผลิตของฝั่งซาอุฯและรัสเซียจะเร่งตัวขึ้น เพราะฉะนั้นดีมานด์หดแต่ซัพพลายขึ้นก็จะยิ่งทำให้ราคาน้ำมันดิบพัง ซึ่งเมื่อวานราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลดลง 24% ส่วน Brent ปรับลดลง 13% ถือว่าหนักทีเดียว

     จึงอาจจะกดดันกลุ่มพลังงานโดยเฉพาะต้นน้ำเป็นตัวฉุดนำตลาดร่วง PTTEP ลงมา 8% PTT ลงมา 6% และ PTTGC ลงมา 4% ธุรกิจโรงกลั่นจะโดยขายขาดทุนจากราคาน้ำมันที่ซื้อสำรองเพื่อไว้จำหน่าย (stock loss)กดดันให้ TOP ร่วงลงมา 7% ดังนั้นภาพตลาดปรับตัวลงมาจากลุ่มพลังงานเป็นหลัก

     กรอบการเคลื่อนไหวน่าจะลงมาทดสอบบริเวณ 1,000 จุดก่อน และกรอบแนวต้าน 1,050 จุด สำหรับนักลงทุนที่รับความผันผวนไม่ได้ให้อยู่นอกตลาดไปก่อน รอให้ปัจจัย COVID-19 ซึ่งเป็นต้นเหตุหลักหายจุดพีกไปก่อน เพราะตอนนี้ผู้ติดเชื้อในสหรัฐเร่งตัวขึ้นจะแตะ 1 หมื่นเคสแล้ว ฉะนั้นต้องรอและค่อยเข้ามาลงทุนใหม่ แต่สำหรับนักลงทุนระยะกลางถือได้ 6 เดือนถึง 1 ปี หรือนักลงทุน VI จุดนี้ที่ราคาหุ้นลงมาถูกกว่าพื้นฐานค่อนข้างมาก

     เพราะฉะนั้นนักลงทุนที่ลงทุนกลางถึงยาวเริ่มทยอยสะสม เน้นกลุ่ม Domestic เป็นหลัก เช่น หุ้นอาหาร ค้าปลีก โรงไฟฟ้า ไอซีที บริเวณ 1,000 จุดหรือต่ำกว่านั้น น่าทยอยสะสมแล้ว โดยเลี่ยงกลุ่ม Global Play ไปก่อนเพราะยังเหวี่ยงและเสี่ยงเกินไป

ที่มา : Link

รวมบทความบัญชีมากถึง 1,000 : https://www.myaccount-cloud.com/Article/List/16128

 653
ผู้เข้าชม
สร้างเว็บไซต์สำเร็จรูปฟรี ร้านค้าออนไลน์